รังวัดที่ดิน สำคัญอย่างไร?

รังวัดที่ดินถือเป็นสิ่งสำคัญต่อการซื้อ-ขายที่ดินเป็นอย่างมากไม่แพ้กับเรื่องของโฉนดที่ดิน ดังนั้นการตรวจสอบรังวัดที่ดินถือเป็นกระบวนการสำคัญที่ต้องทำก่อนการซื้อ-ขายที่ดิน ซึ่งจะเป็นการตรวจสอบถึงขนาดของที่ดินนั้นตรงกับขนาดที่ระบุไว้ในโฉนดที่ดินหรือไม่ หรือขนาดที่ดินอาจเกินหรือน้อยกว่าพื้นที่จริงได้

วันนี้ ProspacE จะมาอธิบายถึงความแตกต่างของการสอบเขต รังวัดแบ่งแยก รังวัดรวมโฉนด ที่หลายคนอาจจะยังรู้สึกสับสนว่าเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร และรวมไปถึงสิ่งที่เจ้าของที่ดินควรรู้ก่อนไปทำการรังวัดที่ดินของตนเองตลอดจนถึงขั้นตอนของการยื่นเอกสารเพื่อขอตรวจสอบรังวัดจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง


“การสอบเขต”

การตรวจสอบรังวัดจะดำเนินการโดยพนักงานที่ดินหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบแนวเขตโฉนดที่ดินหรือการรังวัดเนื้อที่ตามหนังสือรับรองการทำประโยชน์ให้ทราบเนื้อที่และแนวเขตที่แน่นอน

กรณีที่เจ้าของที่ดินต้องการทราบเนื้อที่ดินทั้งหมดว่าตรงกันกับในโฉนดที่ถืออยู่หรือไม่ และมีสภาพที่ดินที่แท้จริงในขนาดกี่ไร่ กี่งาน หรือกี่ตารางวา รวมไปถึงหากมีกรณีที่ดินสูญหายของหมุดปักบอกอาณาเขต

ฉะนั้น เจ้าของที่ดินจะต้องมายื่นคำร้องขอรังวัดที่ดินกับเจ้าหน้าที่กรมที่ดินเพื่อดำเนินการรังวัดและปักหลักหมุดให้ใหม่หากหลักหมุดเดิมหาย และแก้ไขเลขหมายหลักหมุดรวมถึงแนวอาณาเขตของที่ดินลงในโฉนดใหม่ให้ถูกต้อง

“การรังวัดแบ่งแยก”

เป็นการแบ่งแยกที่ดินผืนใหญ่ออกเป็นหลายๆ แปลง โดยเจ้าของที่ดินจะต้องมายื่นคำร้องขอรังวัดที่ดินกับเจ้าหน้าที่กรมที่ดินใหม่ และทำการออกโฉนดที่ดินของแปลงที่แบ่งแยกใหม่ให้แก่เจ้าของที่ดินเพิ่มเติม

“การรังวัดรวมโฉนด”

หากเจ้าของที่ดินได้ทำการซื้อที่ดินบริเวณใกล้เคียงที่ดินผืนเดิม แล้วต้องการรวมโฉนดใหม่ให้เป็นฉบับเดียวกันเจ้าของที่ดินจะต้องมายื่นคำร้องขอรังวัดที่ดินกับเจ้าหน้าที่กรมที่ดินใหม่ และทำการออกโฉนดที่ดินแบบรวมใหม่ให้แก่เจ้าของที่ดินเพิ่มเติม

สิ่งที่เจ้าของที่ดินควรรู้ก่อนขอรังวัดที่ดิน

  1. ที่ดินที่ครอบครองอยู่มีหลักฐานอะไร ให้นำหลักฐานที่มีไปประกอบการยื่นคำขอรังวัดที่ดิน
  2. ที่ดินตั้งอยู่ หมู่ที่เท่าใด ตำบล อำเภอ อะไร
  3. เจ้าของที่ดินข้างเคียงเป็นผู้ใดบ้าง ติดที่สาธารณประโยชน์หรือไม่
  4. สภาพที่ดินเป็นอย่างไร เช่น ที่นา ที่สวน ที่ไร่ ที่อยู่อาศัย

หลักฐานประกอบการขอรังวัด แบ่งแยก หรือสอบเขตโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์

  1. บัตรประจำตัว ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัวชื่อสกุล (ถ้ามี)
  2. โฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์
  3. หลักฐานประกอบการขอรังวัดรวมโฉนดที่ดิน
  4. บัตรประจำตัวประชาชน ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส หลักฐานการเปลี่ยนชื่อตัว ชื่อสกุล (ถ้ามี)
  5. โฉนดที่ดินที่จะขอรวม ต้องมีลักษณะดังนี้

– ต้องเป็นหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ประเภทเดียวกัน เว้นแต่ โฉนดแผนที่ กับโฉนดที่ดินให้รวมกันได้

– ต้องมีชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดินในโฉนดที่ดินเหมือนกันทุกฉบับและต้องยังมีชีวิตอยู่ทุกคน

– ต้องเป็นที่ดินติดต่อผืนเดียวกัน ในจังหวัดและสำนักงานที่ดินเดียวกัน


ขั้นตอนการรังวัด แบ่งแยก รวม สอบเขตที่ดิน

  1. รับบัตรคิวจากประชาสัมพันธ์
  2. รับคำขอสอบสวน ชำระเงินค่าธรรมเนียมคำขอ
  3. ส่งฝ่ายรังวัดดำเนินการ นัดวันทำการรังวัด กำหนดตัวช่างรังวัด กำหนดเงินมัดจำรังวัด
  4. ค้นหารายชื่อเจ้าของที่ดินข้างเคียง และพิมพ์หนังสือแจ้งข้างเคียง
  5. รับหนังสือแจ้งข้างเคียง วางเงินมัดจำรังวัด รับหลักเขตที่ดิน
  6. ช่างรังวัดออกไปทำการรังวัดตามวันที่กำหนดไว้
  7. คำนวณเนื้อที่ และเขียนรูปแผนที่ในโฉนดที่ดิน
  8. ส่งเรื่องรังวัดคืนฝ่ายทะเบียน เรียกผู้ขอมาจดทะเบียน
  9. สอบสวนจดทะเบียนแบ่งแยก
  10. ตรวจอายัด
  11. ชำระเงินค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน และค่าโฉนด
  12. แก้รายการทะเบียน และจดทะเบียนแบ่งแยก
  13. สร้างโฉนดที่ดินแปลงแบ่งแยก
  14. เสนอเจ้าพนักงานที่ดินลงนามและประทับตรา
  15. แจกโฉนดที่ดินแปลงแบ่งแยก

ขั้นตอนการขอแบ่งแยกตรวจสอบเนื้อที่ และรวมหนังสือรับรองการทำประโยชน์

  1. เจ้าของที่ดินนำหนังสือรับรองการทำประโยชน์และเอกสารต่าง ๆ ไปยื่นคำขอ
  2. ให้ถ้อยคำในการนัดรังวัด เพื่อ

– กำหนดวันทำการรังวัด

– กำหนดค่าใช้จ่ายในการรังวัด

– กำหนดเจ้าหน้าที่และสถานที่นัดพบ

  1. รับเจ้าหน้าที่ไปทำการรังวัดและปักหลัก จนเสร็จการ
  2. ลงนามในเอกสารต่าง ๆ

5. รอรับหนังสือแจ้งให้ไปดำเนินการจดทะเบียน ฯลฯ

Blogs
What's New Trending

Related Blogs